บทสวดมนต์พระคาถาชินบัญชร

พระคาถาชินบัญชรถือเป็นบทสวดมนต์ที่มีความสำคัญและได้รับการเคารพนับถืออย่างแพร่หลายในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในประเทศไทยและประเทศใกล้เคยง เชื่อกันว่าบทสวดนี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยปกป้องคุ้มครองจากภัยอันตรายทั้งหลาย รวมทั้งยังนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิตผู้สวดอีกด้วย 
คำว่า "ชินบัญชร" แปลตรงตัวได้ว่า "กรงแห่งชัยชนะ" หรือ "เกราะแก้วของพระผู้พิชิต" ซึ่งมีนัยสำคัญถึงการปกป้องและคุ้มครอง เมื่อได้สวดบทนี้แล้ว เชื่อว่าจะเปรียบเสมือนมีเกราะแก้วที่แข็งแกร่งมาห่อหุ้มตัวผู้สวดไว้ เพื่อป้องกันภัยร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยจากภายนอก เช่น โรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุ ภูตผีวิญญาณร้าย รวมทั้งภัยจากภายในจิตใจ เช่น ความทุกข์ ความโศกเศร้า และความหวาดกลัวอีกด้วย

คาถาชินบัญชร สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี

การหัดสวด คาถาชินบัญชร ควรจะเริ่มสวดในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นวันครูและให้เตรียมดอกไม้ 3 สี หรือดอกบัว 9 ดอก หรือดอกมะลิ 1 กำ จุดธูป 3 5 ถึง 9 ดอก เทียน 2 เล่ม จากนั้นให้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยโดยการตั้งนะโม 3 จบ ต่อด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จากนั้นตั้งจิตนึกถึงสมเด็จโต  

 พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม 3 จบ นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งอธิษฐานว่า

คำภาวนาก่อนสวด

ตั้งนะโม 3 จบ(ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ) 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ 

 

พระคาถาชินบัญชร ฉบับเต็ม 

 ก่อนสวดให้นึกถึง หลวงปู่โต พรหมรังสี แล้วตั้งจิตอธิษฐาน ว่า 

ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง 

อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา 

อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ 

มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

 

เริ่มสวดบทพระคาถาชินบัญชร 15 บท 

๑. ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เยปิวิงสุ นะราสะภา
พระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่าใด ผู้องอาจในนรชน ทรงประทับเหนือชัยบัลลังก์อันกอปรด้วยบุญบารมี ทรงพิชิตพญามารพร้อมทั้งหมู่เสนา ทรงดื่มด่ำอมตรส คือ อริยะสัจ ๔ ประการ

๒. ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา 
พระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้น ๒๘ พระองค์ มีพระตัณหังกรเป็นอาทิ จอมมุนีผู้นำสัตว์โลกให้พ้นจากกิเลสและกองทุกข์ ขอทรงประดิษฐานอยู่เหนือกระหม่อมของข้าพเจ้า

๓. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร 
ขอองค์พระพุทธรัตนะ ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ พระธรรมรัตนะ ประดิษฐานอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสังฆรัตนะ ผู้เป็นอากรแห่งคุณงามความดีทั้งปวง ประดิษฐานอยู่ที่อุระของข้าพเจ้า (อากร แปลว่า บ่อเกิด, อุระ แปลว่า อก)

๔. หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะวามะเก 
พระอนุรุทธ์ประดิษฐานอยู่ที่ใจ พระสารีบุตรประดิษฐานอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลานะประดิษฐานอยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะประดิษฐานอยู่เบื้องหลังของข้าพเจ้า

๕. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุลา กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก 
พระอานนท์กับพระราหุลประดิษฐานอยู่ที่หูขวา พระกัสสปะกับพระมหานามะประดิษฐานอยู่ที่หูซ้าย  

๖. เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว พระโสภิตะ 
ผู้ถึงพร้อมด้วยสิริ เป็นพระมุนีผู้ประเสริฐ ดุจดวงอาทิตย์สาดแสง ประดิษฐานที่สุดส่วนผมเบื้องหลัง  

๗. กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร 
พระกุมาระกัสสะปะเถรเจ้า ผู้แสวงบุญทรงคุณอันยิ่งใหญ่ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะ เป็นบ่อเกิดแห่งความดีทั้งปวง ขอจงประดิษฐานที่ปากของข้าพเจ้าเป็นนิตย์ 

๘. ปุณโณ อังคุลิมาโลจะ อุปาลี นันทะสีวะลี เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเฏ ติละกา มะมะ 
พระปุณณะ พระองคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี ขอพระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฎเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผากของข้าพเจ้า (กระแจะ แปลว่า ผงเครื่องหอมประสมแบบโบราณสำหรับทา หรือเจิม มีแก่นไม้หอม ชะมดเชียงหญ้าฝรั่น ไม้จันทน์) 

๙. เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สีละเต เชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา 
พระอสีติมหาเถระ 80 พระองค์ที่เหลือ เป็นพุทธะสาวกของพระผู้ทรงชัย เสมือนโอรสแห่งพระชินเจ้า ล้วนรุ่งเรืองด้วยเดชแห่งศีล ขอจงมาสถิตอยู่ดี ณ อวัยวะน้อยใหญ่ทั้งหลาย 

๑๐. ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง 
พระรัตนปริตรสถิตอยู่เบื้องหน้า พระเมตตปริตรสถิตอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรสถิตอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะปริตรสถิตอยู่เบื้องหลัง (ปริตร แปลว่า ความต้านทาน, เครื่องป้องกัน) 

๑๑. ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะสุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา 
พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยปริตร เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ พระปริตรที่เหลือสถิตมั่นเป็นกำแพงล้อมรอบ 

๑๒. ชินา นานา วะระสังยุตตา สัตตัปปาการะลังกะตา วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัชฌัตตุปัททะวา
พระชินเจ้าทั้งหลาย ผู้ประกอบด้วยคุณอันประเสริฐนานัปการ ดุจประดับอาภรณ์สัตตะปราการห้อมล้อมทั้ง ๗ ชั้น 

๑๓. อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา วะสะ โต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร 
เมื่อข้าพเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรมล้อมแห่งพระสัมมาสัมพุทธะ ด้วยศีลอันบริสุทธิ์ อันมั่นคงเป็นนิตย์ ขออุปัทวะทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่ลม และน้ำดีเป็นต้น จงพินาศดับสูญไปอย่าได้เหลือ 

๑๔. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะยิ้ม (อ่านว่า ฮี) ตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา 
ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลรักษาข้าพเจ้า ผู้อยู่ท่ามกลางแห่งพระบัญชร ดุจวงเขตกว้างใหญ่ดั่งพื้นแผ่นดิน ทุกเมื่อเทอญ 

๑๕. อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตูปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติฯ 
ด้วยอานุภาพแห่งพระชินเจ้า จึงชนะเหตุอุปัทวะทั้งปวง ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม จึงชนะศัตรูทั้งปวง ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ จึงชนะอันตรายทั้งปวง ข้าพเจ้าผู้ได้รับการอภิบาลด้วยอานุภาพแห่งพระสัทธรรม ขอประพฤติตนด้วยศีลธรรมอันดีอยู่ในพระชินบัญชรฉะนี้แล

 

พระคาถาชินบัญชร คาถาชินบัญชร 9 จบ พร้อมคําอ่าน คำแปล มีพระคุ้มครอง

40 นาที

พระคาถาชินบัญชร คาถาชินบัญชร 1 จบ พร้อมคําอ่าน คำแปล มีพระคุ้มครอง

5 นาที

เพลงพระคาถาชินบัญชร 8 ชั่วโมง ฟังเพื่อผ่อนคลาย จิตเบาสบาย ได้สมาธิ

8 ชั่วโมง